การแข่งขันคู่สุดท้ายของสุดสัปดาห์นี้ในศึกพรีเมียร์ลีก ประเทศอังกฤษ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เป็นเกมระหว่างลิเวอร์พูล บุกไปเยือน เวสต์แฮม ที่สนามลอนดอน สเตเดี้ยม ผลปรากฏว่าทัพหงส์แดงเป็นฝ่ายปราชัย 2-3 หยุดสถิติไร้พ่าย 25 นัดติดต่อกันไปอย่างน่าเสียดาย
โดยเกมนี้ เยอร์เก้น คล็อปป์ ส่งลูกทีมแบบจัดเต็มพร้อมเก็บแต้มกลับบ้าน โดยมีกองหลังชุดเดิมยกเว้น โจเอล มาติป ที่คืนสนามกลับมาเป็นตัวจริงอีกครั้ง ส่วนกองกลางได้ ฟาบินโญ่ กลับมายืนกลางรับช่วยแบ่งเบาภาระ เฮนเดอร์สัน และสามประสานตัวรุกใช้ มาเน่ , ซาลาห์ และโชต้า
ทางด้านขุนค้อนถือว่ามีฟอร์มการเล่นที่ดีเลยทีเดียว ทั้งในเกมลีกและเกมยุโรปโดยนาทีนี้ เดวิด มอยส์ พร้อมชนทีมระดับท็อปทุกทีม เพื่อหวังจะขึ้นไปอยู่ในพื้นที่ท็อปโฟร์ในฤดูกาลนี้ให้ได้ โดยมีกองกลางตัวหลักคอยบัญชาเกมอย่าง ดีแคน ไรซ์ พร้อมกับแผงเกมรุก โบเว่น , อันโตนิโอ ที่กำลังมีฟอร์มร้อนแรงในขณะนี้
เป็นฝ่ายเจ้าบ้านที่ออกขึ้นนำไปก่อน 1-0 จากการทำเข้าประตูตัวเองของ อลิซง เบคเกอร์ ซึ่งทางด้านลิวเอร์พูลต่างก็ประท้วงกับคำตัดสินของผู้ตัดสิน โดยอ้างว่า อันโตนิโอ เข้าไปดันนายด่านชาวบราซิล จนเสียหลักพลาดโดนมือตัวเองเข้าไป แต่ก่อนจะหมดเวลาครึ่งแรกทัพเครื่องจักรสีแดง กลับมาตีเสมอก่อนเข้าอุโมงค์ได้สำเร็จจากประตูฟรีคิกสุดสวยของ เทรท์ อาโนลด์
เริ่มครึ่งหลังเกมมีความสูสีแลกกันไปมาแต่เป็นทางด้าน เวสต์แฮม ที่มีเกมรับรัดกลุมกว่าจนในนาทีที่ 67 จากจังหวะสวนกลับของเดอะแฮมเมอร์จนได้ประตูขึ้นนำอีกครั้งของ ฟอนาลส์ หลุดเดี่ยวเข้าไปยิงแบบไม่พลาด ซึ่งประตูนี้กองหลังของลิเวอร์พูลเลือกที่จะไม่ทำฟาล์ว จนกลายเป็นความผิดพลาดหลุดไปถึงหน้าประตู
อีกไม่นานเจ้าบ้านก็หนีห่างไปเป็นประตูที่สามจากลูกเตะมุมแล้วเป็น ซูม่า ที่เทคขึ้นโหม่งเดี่ยวๆ ไปอย่างสวยงาม และในจังหวะนี้คล้ายๆ ลูกแรกโดยมี อันโตนิโอ เข้ามากวนสมาธิ อลิซง อีกครั้งจนทำให้เจ้าตัวมีความกังวล แต่ก็ถือว่าเป็นประตูอย่างเอกฉันท์
ทางด้านฝ่ายผู้มาเยือนจัดหนักส่งนักเตะเกมรุกเข้ามา เพื่อหวังเอาประตูคืนให้ได้จนกระทั่งในนาทีที่ 83 โอริกี้ ผู้เล่นตัวสำรองลงมาซัดประตูตีตื้นขึ้นมา 2-3 แต่ทว่า เดวิด มอยส์ ก็รีบปรับแท็คติกเอาผู้เล่นเกมรับลงมาเช่นกัน ทำให้สุดท้ายลิเวอร์พูลเจาะไม่เข้าไล่ตีเสมอไม่ทัน จบเกมเวสต์แฮมขึ้นไปอยู่อันดับที่ 3 แทนที่ลิเวอร์พูลที่หล่นลงมาอันดับที่ 4